Table of Contents

กลยุทธ์ Sharable Content เขียนคอนเทนต์ อย่างไร ให้คนบอกต่อ?

กลยุทธ์ Sharable Content

กลยุทธ์ Sharable Content คือแนวทาง การสร้างเนื้อหา ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะให้ ผู้ชมรู้สึกอยาก “แชร์” ต่อไปยังคนอื่น ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเนื้อหานั้นไม่เพียงแค่ให้ข้อมูลหรือความบันเทิง แต่ต้อง “เชื่อมโยงกับอารมณ์” หรือ “สร้างคุณค่า” ให้กับผู้อ่านในระดับที่เขารู้สึกว่า คุ้มค่าที่จะแชร์ เพื่อ:

  • แสดงตัวตน

  • เชื่อมความสัมพันธ์กับผู้อื่น

  • หรือส่งต่อคุณค่าบางอย่าง (สาระ, แรงบันดาลใจ, ความขำ, ความรู้ ฯลฯ)

✅ องค์ประกอบสำคัญของ Sharable Content

  1. กระตุ้นอารมณ์
    เช่น ทำให้คนขำ ซึ้ง ฮึกเหิม หรือประหลาดใจ — ยิ่งอารมณ์แรง ยิ่งแชร์เยอะ

  2. สะท้อนตัวตนผู้อ่าน
    คอนเทนต์ที่คนอ่านแล้วรู้สึกว่า “ใช่เลย” มักถูกแชร์ เพื่อแสดงให้โลกรู้ว่า “นี่แหละฉัน”

  3. มีคุณค่า ใช้งานได้จริง
    เช่น Tips, How-to, Checklist หรือข้อมูลใหม่ล่าสุด ที่คนแชร์เพื่อ “ช่วย” คนอื่น

  4. กระชับ ชัดเจน อ่านง่าย
    โดยเฉพาะในโซเชียล มีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีดึงความสนใจ

  5. มีการเรียกร้องให้แชร์ (Call to Share)
    เช่น “แท็กเพื่อนที่ควรรู้เรื่องนี้” หรือ “แชร์ไว้อ่านอีกที”

🎯 ตัวอย่าง Sharable Content

  • อินโฟกราฟิก “7 พฤติกรรมที่ทำให้เสียเงินโดยไม่รู้ตัว”

  • วิดีโอขำๆ แต่แฝงข้อคิดเรื่องการเงิน

  • บทความ “5 ข้อที่คนสำเร็จไม่ทำในเช้าวันจันทร์”

  • รูป Quote ที่โดนใจ พร้อมดีไซน์เท่ๆ

✅ 7 กลยุทธ์การเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากแชร์จริง

1. เข้าใจอารมณ์ของผู้อ่าน แล้วกระตุ้นมัน

  • คอนเทนต์ที่กระตุ้น “อารมณ์แรง” เช่น ความประหลาดใจ ความขำ หรือความรู้สึกฮึกเหิม มักมีแนวโน้มที่จะถูกแชร์มาก

  • ตัวอย่าง:

    • “แม่ค้าสู้ชีวิต ขายส้มตำด้วยมือถือเครื่องเดียว – สร้างรายได้ 6 หลักต่อเดือน”

2. ให้คุณค่าจริง ไม่ใช่แค่ขาย

  • คอนเทนต์ประเภท How-to, Checklists, หรือข้อมูลที่แก้ปัญหาให้คนอ่าน มักถูกแชร์เพื่อบอกต่อความรู้

  • เคล็ดลับ: ใช้โครงสร้างที่อ่านง่าย เช่น Bullet points, Infographic, หรือ Short Video

3. ใส่ Call to Share แบบแนบเนียน

  • อย่าลืมใส่ประโยคเชิญชวน เช่น “แท็กเพื่อนที่ควรอ่านสิ่งนี้” หรือ “แชร์ไว้อ่านอีกทีตอนทำธุรกิจ”
    (ใช้กับโทนที่เป็นกันเอง)

4. สร้างคอนเทนต์ที่ “พูดแทนใจ” ผู้อ่าน

  • ยิ่งคอนเทนต์ตรงกับสิ่งที่คนอยากพูด แต่ไม่รู้จะพูดยังไง ก็ยิ่งแชร์

  • เช่น คำคมที่ตีความลึก โพสต์ที่พูดถึงความรู้สึกในใจ

5. ใช้ภาพและวิดีโอร่วม

  • คอนเทนต์แบบมัลติมีเดียมีแนวโน้มถูกแชร์มากกว่า โดยเฉพาะใน Facebook, TikTok, Instagram

  • ภาพต้อง “สะดุดตา” และ “อธิบายตัวเองได้” โดยไม่ต้องพึ่งข้อความมาก

6. สร้าง FOMO (Fear of Missing Out)

  • ใช้ข้อมูลแบบ “ใครยังไม่รู้สิ่งนี้ พลาดมาก” หรือ “5 สิ่งที่นักธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้ก่อนใคร”
    ทำให้คนรู้สึกอยากแชร์เพื่อไม่ให้เพื่อนพลาด

7. อัปเดตเทรนด์ที่กำลังมาแรง

  • ถ้าคุณเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่คน “กำลังค้นหา” อยู่ในตอนนี้ เช่น เทคโนโลยีใหม่, เทรนด์สังคม, หรือ Meme กำลังดัง — โอกาสที่คนแชร์จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า

  • ใช้เครื่องมือ:

    • Google Trends

    • BuzzSumo

    • Exploding Topics

🛠 เครื่องมือเสริมสร้าง Sharable Content

เครื่องมือจุดเด่น
Canvaสร้างภาพสำหรับแชร์ได้ง่าย มีเทมเพลตที่เหมาะกับโซเชียล
BuzzSumoวิเคราะห์ว่าคอนเทนต์ใดถูกแชร์มากที่สุดในแต่ละหัวข้อ
Headline Studio by CoScheduleตรวจคะแนนหัวข้อว่า “น่าคลิก” แค่ไหน
ChatGPT + AI Writer Toolsช่วยคิดไอเดียเนื้อหาที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
Typeform หรือ Google Formsสำรวจความคิดเห็นเพื่อสร้างคอนเทนต์จากเสียงของผู้ชมจริง

✍️ สรุป: “คอนเทนต์ที่ดี” ไม่พอ ต้อง “คอนเทนต์ที่ใช่”

Sharable Content ที่ดีในปี 2025 ไม่ใช่แค่ข้อมูลแน่น หรือภาพสวย แต่ต้อง “โดนใจ” และ “มีคุณค่า” จนผู้อ่านรู้สึกอยากแบ่งปัน เพราะมัน:

  • สะท้อนตัวตน

  • ช่วยให้เพื่อนเข้าใจตนเอง

  • หรือทำให้คนอ่านรู้สึกดีที่ได้เป็นคนแรกที่รู้

อยากให้คอนเทนต์ของคุณแชร์ได้? จงเขียนให้ “คนอยากเป็นคนแรกที่ส่งต่อ”

ติดต่อสอบถาม